วิทยาศาสตร์กับมายากลมีความเกี่ยวช้องกันอย่างไร ?

‘มายากล’ เป็นการแสดงที่จำเป็นต้องอาศัยทักษะขั้นสูง มีผู้คนจำนวนมากที่ชื่นชอบการแสดงมายากล โดยปกติแล้วสิ่งที่ทำให้มายากลมีความน่าสนใจและน่าตื่นเต้น ก็คือ การทำให้เกิดบางสิ่งขึ้นมา โดยน่าแปลกใจ หรือตรงข้ามกับสิ่งที่ผู้คนทั่วไปคิด และในทางเดียวกันนั่นเอง การสาธิตทางวิทยาศาสตร์ก็จะเต็มไปด้วยความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ถ้าทำให้สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น โดยเฉพาะ ‘ฟิสิกส์’ ที่สามารถใช้เป็นการแสดงมายากลได้ ซึ่งทำให้ทั้ง 2 ศาสตร์นี้มีความเกี่ยวข้องกันตรงจุดนี้นี่เอง

ยกตัวอย่างกลที่น่าสนใจ :: จุ่มมือในน้ำมันที่กำลังเดือดปุดๆ ไม่เป็นอะไร !

การแสดงกล

ภาพที่ผู้ชมจะได้เห็น คือ มีกระทะขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเตาไฟถ่านแดงฉาน ซึ่งปรากฏภาพมีน้ำมันเดือดปุดๆขึ้นมา หลังจากนั้นผู้แสดงก็จะจุ่มมือเปล่าลงไปในน้ำนั้น เพื่อแสดงให้ผู้ชมเห็นว่า ไม่ร้อนเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อยกขึ้นมาผิวหนังก็จะไม่เป็นอะไรอีกด้วย

อธิบายได้ด้วยเคล็ดลับทางวิทยาศาสตร์ :

สำหรับขั้นตอนเตรียมการ ก็คือ ให้ผู้แสดงเทน้ำเปล่าลงในกระทะขนาดใหญ่ หลังจากนั้นต้มให้พอเดือด ไม่ต้องเดือดจนถึงขั้นเดือดปุดๆ หลังจากนั้นจึงค่อยๆเทน้ำมันใส่ลงไปในน้ำนั้น ด้วยอัตราส่วนของน้ำที่มีต่อน้ำมัน ต้องเป๊ะ คือ 3:6 หรือ 3:7 และอย่างที่คุณผู้อ่านคงรู้กันมานานแล้วว่า น้ำมันมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ ด้วยเหตุนี้เมื่อนำลงไปผสมกับน้ำ น้ำมันก็จะค่อยๆลอยขึ้นมาบริเวณผิวหน้าเหนือน้ำ ส่วนน้ำจะนอนอยู่บริเวณด้านล่างก้นกระทะ และน้ำนี่แหละที่ได้รับความร้อนโดยตรงจากก้นกระทะ ที่กำลังถูกต้มอยู่ ให้เดือดเป็นฟองขึ้นมา หากแต่ในช่วงที่น้ำมันด้านบนยังไม่ได้รับความร้อนมากเท่าไหร่นี้เอง จึงช่วงที่เหมาะสมต่อการเล่นกลมาก ! ด้วยการใช้มือเปล่าแหวกว่ายในน้ำมันเดือดแบบสบายๆ ซึ่งความจริงแล้วดูเหมือนเดือด หากแต่ไม่ได้เดือดอย่างที่คิด เพราะส่วนที่เดือดจริงๆ ก็คือ บริเวณน้ำด้านล่างเท่านั้น จึงแสดงได้โดยไม่เป็นอะไร นอกจากนี้เพื่อความสนุกจะแสดงท่าทางประกอบแกล้งทำเป็นปวดแสบ ปวดร้อน ก็ได้ ผู้ชมจะได้ตื่นเต้นมากขึ้นที่

เคล็ดลับ :: เวลาผู้แสดงจุ่มมือลงไปกวนในน้ำมัน ให้พยายามจำกัดอยู่เฉพาะในส่วนของน้ำมัน ซึ่งลอยอยู่บนผิวหน้า ไม่ต้องจุ่มมือลึกลงไปในส่วนที่เป็นน้ำเดือด มิฉะนั้นมือจะสุกของจริงเป็นแน่

คำเตือน :: สำหรับกลใช้กลวิธีที่มีเกี่ยวกับความร้อน รวมทั้งการจุดไฟที่อาจเป็นอันตราย จึงไม่แนะนำให้เด็กๆเล่นกันเองโดยไม่มีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด